โดยทั่วไปการซ่อมบำรุงจะเป็นแบบตามรอบ เช่นมีการเปลี่ยนอะไหล่ตามรอบ แม้อุปกรณ์จะยังรับโหลดได้อยู่ ซึ่งเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอุปกรณ์เหล่านั้นถึงรอบอายุการใช้งานจริง ๆ แล้ว ในเมื่อเครื่องจักรหลายตัวไม่ได้ทำงานพร้อมกันหรือไม่เช่นนั้นก็ไม่ได้มีการตรวจจับระยะเวลาการทำงานจริง ๆ ดังนั้นการเปลี่ยนอะไหล่หรือตรวจสอบโดยทั่วไปจึงเป็นการทำงานตารอบที่เรากำหนดขึ้นเองเช่นทุกอาทิตย์ ทุกเดือน และทำพร้อมกันหลายชุดไม่ได้เจาะจงว่าทำที่เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ชุดใดชุดหนึ่ง จึงต้องใช้เวลามาก ใช้ค่าใช้จ่ายสูง
ระบบซ่อมบำรุงด้วยSCADAสามารถใช้SCADAมาตรวจสอบด้วยฟีเจอร์ดังนี้
- ตรวจจับเวลาการทำงานจริงของอุปกรณ์/เครื่องจักร
- แจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์นั้นถึงเวลาต้องตรวจสอบหรือต้องเปลี่ยนอะไหล่จริง ๆ
- แจ้งเตือนเมื่อข้อมูลจำนวนอะไหล่น้อยกว่าที่ต้องใช้หรือต่ำกว่าที่กำหนด
- ระบุจุดเสียได้ทันทีไม่ต้องตระเวนตรวจสอบหรือรอการแจ้งจากพนักงาน พร้อมสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมด
การตรวจวัดเวลาการทำงานจริงของเครื่องจักรด้วยSCADA
เราสามารถตรวจวัดอายุการทำงานของเครื่องจักรจริงได้โดยใช้สถานะการทำงานของเครื่องจักรมาเป็นเงื่อนไข เช่นStartก็เริ่มนับอายุการใช้งาน หรือเครื่องจักรบางตัวที่ใช้มอเตอร์ก็ใช้กระแสโหลดเป็นหลักว่ากระแสสูงถึงระดับโหลดหรือยัง ถ้ายังก็หมายถึงไม่มีโหลดก็อาจจะไม่เริ่มนับเวลาเป็นต้น ซึ่งเมื่อเงื่อนไขตรงตามที่กำหนดก็ให้SCADAบวกเพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ แล้วเก็บไว้ในฐานข้อมูล(เพื่อดึงเอารายงานมาใช้ได้สะดวกและใช้กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆได้) จากนั้นใช้โมดูลตรวจจับAlarmอย่างเช่นAlarmWorXของGENESIS32หรือGENESIS64มาตรวจสอบว่าข้อมูลที่เก็บไว้นั้นถึงระดับที่ต้องแจ้งเตือนหรือยัง หลังจากแจ้งเตือนและเปลี่ยนอะไหล่แล้วก็ทำการรีเซตค่าการนับอายุของอะไหล่ตัวนั้น ดังนั้นต้องมีอุปกรณ์รับสัญญาณเพื่อตรวจจับสถานะของเครื่องจักร เช่นสถานะการ On/Off หรือรับสัญญาณกระแสไฟฟ้าของมอเตอร์เป็นต้น โดยอาจจะใช้Remote IOหรือ PLC แล้วแต่ความต้องการ ถ้าใช้Remote IOก็จะง่ายตรงที่ Register Address จะแน่นอน ถ้าเป็นPLCก็จะต้องให้คนเขียนโปรแกรมกำหนดมาว่าใช้Registerไหนบ้างระบบสรุปจำนวนอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยน
สามารถให้SCADAตรวจนับและสรุปจำนวนอะไหลแยกตามประเภทว่าแต่ละประเภทต้องเปลี่ยนจำนวนเท่าใดเนื่องจากในAlarmWorXมีฐานข้อมูลแจ้งเตือนได้ว่าเครื่องจักรตัวไหนแจ้งเตือนแล้วแต่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนอะไหล่และคิดเป็นจำนวนเท่าใด ทำให้จัดซื้อสามารถจัดซื้อได้ทันทีถ้าไม่เพียงพอการติดต่อกับระบบอะไหล่
เราสามารถติดต่อกับฐานข้อมูลของระบบอะไหล่ซึ่งสามารถทำขึ้นเองได้หรือติดต่อฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้มีอะไหล่เหลืออยู่เท่าใด พอที่จะใช้งานหรือไม่เมื่อเทียบกับข้อมูลในSCADAข้างต้น โดยGENESIS32และGENESIS64สามารถติดต่อฐานข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ MS Access, MS SQL Server, Oracle, SAP, MySQL เป็นต้น (บางตัวต้องใช้Client License ของฐานข้อมูลเช่น SAP)ประโยชน์ที่องค์กรได้รับจากSCADA
- ลดDowntime เพิ่มศักยภาพการผลิต
- ลดค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับอะไหล่ที่ไม่จำเป็น
- ลดภาระงานพนักงาน พนักงานมีเวลาพัฒนาส่วนอื่นและมีความสุขกับงาน
- เพิ่มความเชื่อมั่นต่อองค์กรณ์ในมุมมองของหุ้นส่วน/ลูกค้าและพนักงาน
ฟีเจอร์ที่ใช้งานในระบบPrevent Maintenanceด้วยSCADAที่น่าสนใจ
- การติดต่อกับฐานข้อมูลทำให้สามารถเอาข้อมูลจากองค์กรณ์มาใช้ประโยชน์ต่อได้
- การติดต่อกับฐานข้อมูลทำให้สามารถส่งข้อมูลจากSCADAไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาไปใช้งานต่อได้
- ระบบAlarmที่สามารถสรุปเหตุการณ์ความขัดข้องออกมาตามพื้นที่ ความร้ายแรง และสรุประยะเวลาDowntimeรวมและDowntimeแยกตามประเภท ซึ่งบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของระบบควบคุมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น